7 วิธีเอาชีวิตรอดในรั้วมหาวิทยาลัย

ว่าไหม? ว่าการได้เรียนมหาวิทยาลัยคงเป็นความฝันของใครหลายคน ตอนเด็กๆ ผมก็เคยฝันว่าสักวันต้องได้เรียนมหาวิทยาลัย ตอนแรกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยากเรียนอะไร ที่ไหน ยังไง
แต่พอได้เข้าเรียนแล้วความรู้สึกมันแบบ แม่เจ้าโว้ยยยยยย! ชีวิตอิสระเกินห้ามใจ ไม่มีใครมายุ่ง มาบังคับเลย อยากไปไหนก็ไป อยากเรียนก็เรียน ไม่อยากเรียนก็ไปเที่ยว เป็นไงล่ะ สนุกใช่ไหมครับ?
แต่...  (ขอเน้นคำว่า "แต่" ดังๆ) แต่ความสนุกที่ว่ามามันเริ่มไม่สนุกตอนที่คิดได้ว่า "เฮ้ย! แล้วเรียนๆ เล่นๆ แบบนี้มันจะจบได้ยังไง? แล้วต่อไปจะทำอะไรกิน?"

ผมก็เลยเปลี่ยนความคิด พฤติกรรมและเรียนจบได้ในที่สุด
เอาล่ะ! ทีนี้มาดู 7 วิธีที่จะช่วยให้คุณมีชีวิตรอดจากรั้วมหาวิทยาลัยกันเถอะ

1. เข้าเรียนบ้างก็ได้

http://hqtutorhome.com/2-uncategorised/21-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99.html

     ถึงแม้ว่าตอนเรียนมหา'ลัย จะไม่มีใครมาจ้ำจี้จ้ำไช ไม่มีใครมาบังคับให้เราเข้าเรียน(บางวิชาก็เช็คชื่อนะ) แต่แหล่งความรู้ที่ดีและสะดวกที่สุดที่เราจะหาความรู้ได้ก็คือ "ห้องเรียน" เพราะเมื่อเราเกิดคำถามเราก็สามารถยกมือถามอาจารย์ได้ทันที(หรืออย่างน้อยก็ยังถามเพื่อนได้) นอกจากความรู้ที่เราจะได้จากห้องเรียนแล้วเรายังได้เพื่อนเพิ่มด้วย ที่สำคัญเลยนะ! ถ้าใครไม่เข้าห้องเรียนตอนอาจารย์บอกแนวข้อสอบ แล้วเพื่อนๆ ก็ดันไม่บอกเราล่ะก็... ระวังจะเสียใจบอกเลย

2. กลับถึงบ้านแล้วหยิบหนังสือมาดูอีกซักครั้งคงไม่ตาย

http://hqtutorhome.com/

     การหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาอ่านแต่ละครั้งเนี่ยยยย มันช่างงงงง ยากกกกกลำบากกกเหลือเกิน ใช่ไหมล่ะ? แต่เชื่อเถอะว่ามันจำเป็น เพราะหลังจากที่เรา(ตั้งใจ)เรียนในห้องเรียนไปแล้ว ความรู้นั้นมันจะยังไม่ถูกบันทึกเข้าหัวเราหรอก แต่ถ้าเรากลับบ้านอาบน้ำให้สบาย แล้วก่อนนอนลองหยิบหนังสือหรือสมุดที่เราจดตอนเรียนมานั่งทบทวนอีกครั้ง คราวนี้ล่ะพ่อเอ้ยยยย! ความรู้วันนั้นจะฝังอยู่กับคุณไปอีกนานเลย สาบาน!

3. ทำตัวให้สมกับเป็นนักศึกษา

http://hqtutorhome.com/

     การที่เราได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยหมายความว่าเราได้ยอมรับการเปลี่ยนแปลงสถานะของตัวเองจาก "นักเรียน" มาเป็น "นักศึกษา" เรียบร้อยแล้ว! แล้วนักศึกษาน่ะ มันต่างจากนักเรียนนะ นักเรียนจะมีคุณครูคอยให้ความช่วยเหลือ ให้ความรู้ ดูแลตลอดการเรียนการสอน แต่นักศึกษามันไม่ใช่แบบนั้น นักศึกษาต้องหาความรู้เองเป็น ไม่ใช่เอาแต่รอความรู้จากอาจารย์ มันไม่พอให้เราเรียนจบนะ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยเขามีหน้าที่ให้คำปรึกษา ไม่ใช่คนที่ต้องมาคอยดูแลเรา ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ลองอ่านหนังสือเองดูก่อน ไม่เข้าใจจริงๆ ค่อยถาม สู้ๆ นะ

4. เตรียมการสอบให้ดี

http://hqtutorhome.com/

     หลังจากที่รู้แนวข้อสอบแล้ว สิ่งสำคัญคือการเตรียมการสอบ การเตรียมการสอบเนี่ยมี 2 วิธีหลักๆ 1. อ่านเองตั้งแต่ต้นจนจบ(พวกนี้ไม่คบเพื่อน หรือไม่ก็ เพื่อนเรียนผ่านไปหมดแล้ว) อ่านเองทั้งหมดมันก็ทำได้นะ แต่เหนื่อยมาก เพราะวิชาเรียนในมหาวิทยาลัยบางวิชานั้นยากมาก วิธีที่ง่ายกว่าคือวิธีนี้ 2. อ่านหนังสือกับคนอื่นอาจจะเป็นเพื่อนร่วมคณะ เพื่อนในห้องเรียนหรือติวเตอร์ก็ได้ การอ่านหนังสือกับคนแต่ละกลุ่มมีข้อดีข้อเสียต่างกันนะ อ่านกับเพื่อนดีที่ สบายใจ อยากถามอะไรก็กล้าถาม(ไม่ต้องกลัวเพื่อนจะหาว่าโง่ เพราะรู้ๆ กันอยู่) แถมยังพักตอนไหนก็ได้(สรุปมันดีไหมเนี่ย?) ติวหนังสือสอบกับติวเตอร์ดีตรงที่ ติวเตอร์จะมีความชำนาญในการทำข้อสอบมาก เพราะเขาเคยทำข้อสอบแนวๆ นั้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะมาติวให้เรา ดังนั้นการติวกับติวเตอร์ที่มีประสบการณ์ก็ทำให้เรารู้เทคนิคพิชิตข้อสอบได้ง่ายๆ

5. เลือกคบเพื่อนให้ดี

http://hqtutorhome.com/

     เพื่อน! คำพยางค์เดียวที่แทนความหมายได้เป็นล้านความหมาย หลายครั้งที่เพื่อนทำให้เรามีความสุข แต่บางครั้งเพื่อนก็ทำให้เราเศร้าได้เช่นกัน จำไว้ว่าชีวิตมันมีเวลาให้เราได้สนุกอีกมากมาย ถ้าเห็นเพื่อนเอาแต่สนุกไปวันๆ เราก็ลองเตือนเพื่อนบ้าง(ถ้าเราเป็นห่วงมันนะ) แต่ถ้ากู่ไม่กลับจริงๆ เอาแต่ปาร์ตี้ทุกวี่วัน ก็คงต้องปล่อยเขาไปตามทางที่ชอบๆ เพราะอนาคตเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนอื่นนะจำไว้ให้ดี มันขึ้นอยู่กับตัวเราเองนี่แหละ อันนี้เรื่องจริง มีเพื่อนที่ดีไม่เอาเปรียบเรา ชีวิตก็จะดี ความรักก็เช่นกัน

6. แบ่งเวลาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

http://hqtutorhome.com/

     แบ่งเวลาให้ดี ประโยคสั้นๆ ที่ยากต่อการกระทำ ใครๆก็พูดได้ว่า "แบ่งเวลาให้ดีๆ นะ" แต่จะมีกี่คนที่ทำได้จริง จริงๆ แล้วมันไม่ยากขนาดนั้นนะ รู้ไหมมันยากเพราะอะไร? เพราะเราไม่เคยเขียนแผนเขียนตารางเวลาแบบจริงจังน่ะสิ เทคนิคง่ายๆนะ จำไว้ให้ดีแล้วนำไปใช้ หยิบปฏิทินขึ้นมาถ้าไม่มีก็หยิบกระดาษขึ้นมา เขียนลงไปว่าเราจะทำอะไรบ้างในวันต่อๆ ไป เช่น วันจันทร์หน้า จะอ่านหนังสืออะไร จะไปเที่ยวไหน ทำอะไรกับใครที่ไหน คร่าวๆก็พอ เอาให้รู้ว่าเรามีอะไรให้ทำบ้าง ทำเสร็จแล้วก็ขีดออก ช่วงใกล้สอบก็เขียนไว้ว่า สอบอะไรวันไหน ต้องอ่านอะไรบ้าง แล้วอ่านซะ เตรียมตัวก่อนซัก 1-2 เดือน ทำให้เป็นนิสัยนะ รับรองประสบความสำเร็จแน่นอน

7. แบ่งเวลาไปเที่ยวบ้างอะไรบ้าง

http://www.dreampackerclub.com/main/

     การแบ่งเวลาเนี่ย ไม่ใช่ต้องแบ่งเวลาแค่เรื่องเรียนอย่างเดียวนะ หาประสบการณ์บ้าง เก็บเงินไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศดู ลองฝึกงานเอาที่อยากจะทำในอนาคตหรืออย่างน้อยก็หากิจกรรมอื่นทำ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้เรา หากเรามีประสบการณ์ในเรื่องต่างๆ รอบตัว เวลาที่เราเรียนจบไปแล้วเจอปัญหาเราก็จะได้รู้วิธีรับมือกับมัน

แค่ทำตาม 7 วิธีนี้ รับรองไม่มีกร่อยและเรียนจบอย่างแน่นอน ลองดูสิ!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

[รีวิว] เรื่องกินสนุกๆจนเป็น ริดสีดวง และวิธีรักษาแบบไม่ผ่าตัด

(มีคลิป)สอนเล่น Vindictus เกมใหม่สุด Sexy ของ Garena

มารู้จักกับเกม Clash of Clans เกมที่นางเอกตัวแม่ อย่างพี่อั้ม พัชราภา ยังเล่น(สวยและเล่นเกมแบบนี้ จ๊าบไปเลย!)