[คิดสนุกๆ]"ความต้องการ เท่ากับ อิสระ" จริงเหรอ?

ทุกคนอยากได้ความอิสระ แล้วเราค้นหามันด้วยวิธีไหน?

โปรดอ่าน! เรื่องนี้เกิดจากความเห็นส่วนตัวล้วนๆ อาจจะมีคนชอบไม่ชอบนะครับและอาจมีคำหยาบคายบ้าง ใช้สติในการอ่านนะครับ จุ๊บๆ  [เพื่อความสนุกและไหลลื่นในการอ่านผมจำเป็นต้องเรียบเรียงประโยคพูดใหม่ อาจมีบางคำที่ไม่ใช่คำที่รับฟังมาจริงๆ ได้โปรดเข้าใจด้วยนะครับ]

เหตุผลที่เขียนกระทูนี้

  1. ให้กำลังใจคนที่กำลังท้อแท้
  2. อยากให้ทุกคนเชื่อว่าคนเรามีความสามารถมากกว่าที่เราเป็นอยู่
  3. อยากให้ทุกคนสนุกับอิสระของคุณ อิสระที่ไม่มีใครมาบังคับได้

วันนี้เราจะมาพิสูจน์สมการกันนะครับ ว่า "ความต้องการ = อิสระ" นั้นเป็นจริงได้หรือไม่?

     พูดถึงอิสระ ผมเชื่อว่าทุกคนต้องอยากได้มัน บางคนมองหามันมาทั้งชีวิตทั้งๆที่จริงๆแล้ว มันอยู่ในหัวของเขามาตลอด ฟังดูตลกใช่ไหมครับ แต่มันคือเรื่องจริงครับ เรามาเริ่มพิสูจน์กัน!! 

"อิสระ" คืออะไร

     อิสระ ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษจะได้แบบนี้ คลิกที่นี่ แต่ถ้าแปลเป็นไทยจะได้แบบนี้ คลิกที่นี่ หรือแม้แต่ใน Wikipedia ก็มีคนเขียนไว้แบบนี้ คลิกที่นี่ (ลองอ่านดูนะครับ) 
     มีหลายคนตีความหมายของคำว่า "อิสระ" ไว้มากมาย แต่มีอย่างหนึ่งที่คล้ายๆกัน คือ "ความไม่ขึ้นกับใคร เป็นตัวของตัวเอง" โดยส่วนตัวผมเชื่อเรื่องนี้ คนเราทุกคนมีอิสระทั้งในความคิดและในการกระทำ  เช่น คุณอยากคิดว่า วันนี้จะต่อยใครดี หรือจะตดให้ใครดม เหอๆ คุณคิดได้ครับ ส่วนอิสระในการกระทำนั้นผมก็เชื่อว่าเราทุกคนมีอิสระด้านนี้เช่นกัน เช่น ผมคิดว่า "เฮ้ย! ผมอยากต่อยไอ้แว่นที่ยืนอยู่ตรงนั้น" แล้วผมก็เดินไปต่อยเขา ผมมีอิสระในการกระทำครับ ไม่มีใครสามารถบังคับผมไม่ให้ทำได้เลย ผมก็เดินไปต่อยเขา แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นล่ะ?
  1. เขาอาจจะต่อยผมกลับ
  2. เขาอาจจะวิ่งหนีผม
  3. เขาอาจจะกรี๊ดแตก
  4.  ฯลฯ
     และอีกมากมายที่เขาสามารถจะทำเพราะตัวพี่แว่น(คนสมมติที่อยู่ๆก็ซวย)ก็มีอิสระในการกระทำเช่นกัน 

ประเด็นอยู่ตรงไหน?

     ประเด็นคือ "ใช่ครับ! ทุกคนมีอิสระ" แต่! ในความอิสระนั้นเราต้องไม่เบียดเบียนคนอื่นครับ นี่คือหนึ่งในประเด็นหลักของกระทู้นี้ บางคนบอกว่าการเดินไปต่อยคนอื่นหรือไปทำร้ายร่างกายเขาเป็นเรื่องรุนแรงไม่ควรเกิดขึ้น แต่ผมไม่คิดว่าการกระทำจะมีพลังเท่า "ความคิด" ทุกอย่างเกิดจากความคิดครับ ถ้าเราเปลี่ยนความคิดว่าไม่ไปต่อยเขาเราก็จะไม่ไปต่อย(ลองนึกดูสิๆ)
     เมื่อเรามีปัญหาไม่ว่าจะเป็น การเรียน การเงิน การงาน ความรัก เราเลือกจะคิดวิธีแก้ไขปัญหาต่างๆได้หลายอย่างมันเป็นอิสระของเรา สมมติเรื่องการเงิน เราอาจจะแก้ปัญหาได้โดยการเริ่มประหยัดค่าใช้จ่าย วางแผนการชำระหนี้มากมายหลายสิ่งตลอดจนหารายได้เพิ่มด้วยวิธีต่างๆ อิสระสุดๆ คิดผิดคิดถูกก็ไม่เสียเงินเพราะแค่คิด แล้วทำไมเราถึงไม่คิดล่ะ? มันฟรีนะ!

แล้วฉันจะทำได้เหรอ? ฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้นะ มีแต่คนเก่งๆเท่านั้นที่ทำได้

     ถ้าคุณกำลังคิดเหมือนประโยคข้างบน ผมบอกเลยว่า "ความชิบหายเริ่มคิดถึงคุณแล้ว!!" นั่นคือการจำกัดอิสระในหัวของคุณเอง ผมถามหน่อยว่า มีใครห้ามไม่ให้คุณคิดได้บ้าง? ติ๊กต้อกๆ แอ๊ดดดดด หมดเวลา ผมบอกเลยว่าไม่มีใครห้ามคุณได้ ยกเว้นตัวคุณเอง มันเป็นเรื่องจริงครับ(ลองทบทวนดูสิ) 
     แต่เชื่อไหมครับว่ามีคนหลายๆคนไม่กล้าแม้แต่จะคิดแบบอิสระ เช่น พรุ่งนี้ต้องรวย ปีหน้าต้องไปเที่ยวเมืองนอก ต้องซื้อบ้านให้พ่อแม่เลี้ยงดูพ่อแม่ให้ได้ตอนอายุ 30 ปี ผมเคยไม่เข้าใจคนเหล่านี้ครับ ไม่เข้าใจว่าเหตุผลที่ทำให้เขาไม่กล้าคิดคืออะไร แต่พอได้สัมผัสเยอะขึ้นเรื่อยๆจึงสรุปคร่าวๆ(คิดเอาเอง)ได้ว่า มันอาจจะเกิดจากประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมของตัวเขาเองที่จำกัดอิสระในความคิดของเขาความคิดแบบนี้เป็นเรื่องที่น่ากลัวครับ(คิดว่าตัวเองมีขีดจำกัด) ถ้าคุณรู้ตัวแล้วว่าคุณกำลังอยู่ในคนประเภทนี้และอ่านมาถึงบรรทัดนี้ ต้องบอกว่าคุณโชคดีมากครับที่ได้อ่านกระทู้ของผม(555+) ผมมีวิธีดีๆง่ายๆมาแนะนำเพื่อให้คุณๆสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ อย่างน้อยๆคือให้คุณกล้าที่จะคิดแบบอิสระ มาดูกัน!

เริ่มยังไงดี?

     การเริ่มต้นนั้นยากทั้งหมด ทุกเรื่อง ทุกอย่างนั่นแหละครับ เพราะฉะนั้นเตรียมใจซะ! 
     อย่างแรกเลยผมอยากให้คุณคิดก่อนว่าคุณอยากได้อะไร ชีวิตอิสระของคุณเป็นแบบไหน? คิด คิด คิด ผมขอยกตัวอย่างตัวผมเอง ผมต้องได้รายได้ต่อเดือนอย่างน้อยเดือนละล้านบาท เป็นยังไงบ้างครับ? คุณว่ามันตลกใช่ไหม? ความคิดของผมมันอาจจะดูตลกๆ เกินจริง แต่สิ่งนี้คืออิสระในความคิดผม ผมอยากคิดแบบไหนก็ได้ คุณห้ามผมคิดไม่ได้ด้วยซ้ำ(นี่สิตลกกว่า ฮ่าๆ) 
     คุณเองก็สามารถคิดได้ครับว่า "เฮ้ย กูก็ต้องมีเงินเดือนเดือนละล้าน อาจจะหลายร้อยล้านกูก็คิดได้ เยอะกว่ามึงอีกไอ้ตูมตาม" ฮ่าๆ คุณเผลอคิดตามประโยคที่ผมพิมพ์ไปแล้วล่ะสิ! เห็นไหมครับ ง่ายนิดเดียว คุณแค่ต้องบอกกับตัวเองว่า "แค่คิดไม่ได้เดือดร้อนใคร เงินก็ไม่เสีย" ตอนที่คุณกำลังคิด ปลดปล่อยจินตนาการ ตอนนั้นแหละครับที่คุณกำลังมีความคิดที่อิสระ มีความสุขกับมันซะ!

หมั่นทบทวนและคิดถึงความอิสระ

     หลังจากเราเริ่มปลดปล่อยจินตนาการเป็นแล้ว ต่อไปเราก็แค่คิดมันหลายๆครั้งตอนที่เราว่าง ไม่ได้ทำอะไร เช่น กำลังนั่งพักสายตาอยู่หน้าคอมแล้วก็คิดว่า "กูต้องมีเงินเดือนเดือนละล้านๆ" ง่ายมากๆ แต่ก็ต้องระวังอย่าไปหมกมุ่นกับมันจนเกินไปเพราะยังไงซะเราก็ยังอยู่ในโลกของความเป็นจริง อิสระในความคิดที่คุณได้มา(ที่กำลังฝึกเพื่อเอามันมา)นั้นไร้ขีดจำกัด แต่อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นมันคงจะไม่ดีถ้าเราใช้อิสระของเราไปเบียดเบียนอิสระของคนอื่น ความคิดไหนที่มันแย่ๆก็อย่าไปคิดถึงมันครับ โอเคนะ?

มันจะดียังไงถ้าได้แค่คิด?

     คำตอบคือไม่ดีครับ แต่ลองมองจากข้อดีก่อน ข้อดีของความคิดอิสระคือเราไม่เสียอะไร แต่แล้วมันจะดียังไงใช่ไหมครับ ถ้าเราได้แค่คิดว่า "เฮ้ยๆ กูจะรวยๆ" แต่ไม่ได้ลงมือทำอะไรให้รวยขึ้นเลย นั่นแสดงว่าถ้าคุณเริ่มคิด เริ่มกำหนดอิสระที่คุณต้องการได้แล้ว คุณก็แค่เริ่มมองทบทวนตัวเองว่าเราขาดอะไรไปทำไมเราถึงไม่มีอิสระแบบที่เราคิดแล้วเราก็แก้ไขมันซะ เช่น ถ้าคุณอยากรวยแล้วคุณกำลังทำงานอะไร? ถ้าคุณอยากผอมคุณกินอาหารอย่างไร? ถ้าคุณอยากดูดีน่าเชื่อถือแล้วคุณใช้ชีวิตแบบไหน? คำถามพวกนี้จะทำให้คุณรู้ว่าควรใช้วิธีการแก้ไขปัญหาเพื่อไปสู่ชีวิตอิสระของคุณต้องทำอย่างไรครับ ทุกปัญหามีทางออก อิสระมีอยู่จริงไม่ใช่แค่ในฝัน ที่สำคัญมันอยู่ในหัวเรามาตลอด

อย่าดูถูกตัวเองเด็ดขาด

     ผมไม่ใช่คนรวยอะไร เกิดมาในครอบครัวที่อยู่ในฐานะปานกลางใช้ชีวิตเรื่อยๆไม่ได้หวือหวา เรียนก็ไม่เก่ง ไม่ใช่อัจฉริยะ แต่ผมมีความฝันและความเชื่อครับ ฝันผมยิ่งใหญ่มาก มากเกินกว่าจะเอามาพิมพ์ลงในนี้หมด สิ่งเหล่านี้เกิดจากอิสระในความคิดของผมครับ แต่ความเชื่อของผมสามารถสรุปสั้นๆและสามารส่งต่อให้ทุกคนได้เพราะความเชื่อของผมนั้น ผมได้มาจากสัจธรรม(ความจริง) ความเชื่อของผมคือ "เราเป็นได้ทุกอย่างที่อยากเป็น แต่เราต้องเชื่อว่าเราทำได้" สั้นๆง่ายๆครับ คุณเองก็คิดได้และเป็นได้ มั่นใจเข้าไว้ๆ ที่สำคัญ ห้ามดูถูกตัวเองเด็ดขาด!! 
     อาจจะมีหลายๆคนในชีวิตเราที่เขาชอบดูถูกความฝันเรา คนเหล่านั้นเป็นคนน่าสงสารครับ จิตใจเขาเฝ้าหมกมุ่นอิจฉาคนที่มีความฝัน อาจเป็นเพราะเขาเคยผิดหวังมาจากฝันของตัวเองก็เป็นได้ ความฝันเราไม่ได้ทำร้ายใคร(ยกเว้นเราฝันเรื่องเลวร้ายนะครับ เหอๆ) อย่าได้สนใจคำดูถูกพวกนั้นครับ ปล่อยมันผ่านไป ผมเข้าใจครับบางทีมันก็ทำใจยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนที่ดูถูกคุณเป็นคนที่คุณแคร์ แต่ถ้าคุณคิดว่ากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง(ต้องคิดให้รอบคอบนะครับว่าถูกต้องแล้ว)ก็พิสูจน์ตัวเองด้วยการไปสู่อิสระในชีวิตของคุณต่อไปครับ ถ้าคุณพิสูจน์ได้แล้วเขาก็จะเลิกดูถูกคุณเองนั่นแหละครับ สู้ๆ

วางแผนก็แล้ว ลองทำก็แล้ว ก็ยังไม่เจออิสระ หรือว่าต้องเลิกคิด?

     ไม่ต้องเลิกคิดหรอกครับ ห้ามเลิกคิด สิ่งที่ทำให้เราไปไม่ถึงอิสระในชีวิตของเราก็คือความคิดครับ(ท่องไว้ๆ) ถ้าเราคิดผิด วางแผนผิด อิสระที่เราคาดหวังไว้ในตอนแรกก็อาจจะยากขึ้นหรือใช้เวลานานขึ้นในการเดินทางไปหามันครับ แต่ไม่มีทางที่เราจะไม่ได้พบกับอิสระในชีวิตของเรา ลองคิดทบทวน วางแผนใหม่ ที่สำคัญต้องเชื่อว่าอิสระมีอยู่จริงและคุณเองก็รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนเพียงแต่คุณกำลังหาวิธีไปสู่จุดนั้นอยู่ แค่นั้นครับ แล้วคุณจะมีกำลังใจสู้ต่อ 

ความต้องการ = อิสระ จริงหรือไม่?

     ถ้าจริง อิสระก็ต้องเท่ากับความต้องการเช่นกัน(ตามหลักคณิตศาสตร์) เพราะว่าถ้าคุณได้ใช้เครื่องหมายเท่ากับแล้ว เมื่อคุณสลับตำแหน่งตัวแปรจากซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้าย มันก็ต้องเท่ากันครับ 
     ถ้าคุณเทียบสมการได้แบบนี้แล้ว ผมอยากให้ลองคิดแบบนี้ครับ(ลองคิดตามนะครับ) ถ้าทุกวันนี้ที่ผมทำงานอยู่ ผมพอใจกับการใช้ชีวิตการทำงานของผมมากๆ(มันอาจจะร้ายหรือดีกว่าคนอื่น อันนี้ไม่นับนะครับ) เท่ากับว่าผมได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เพราะฉะนั้นอิสระในชีวิตการทำงานของผมก็คือการทำงานแบบนี้
สรุปได้ว่า แท้จริงแล้วอิสระในชีวิตของเราขึ้นอยู่กับความพอใจของเราเป็นหลัก ถ้าเราพอใจง่ายเราก็เจออิสระได้เร็ว(แต่ต้องไม่หลอกตัวเองนะ คุณต้องรู้ก่อนว่าจริงๆแล้วคุณอยากได้อะไร) ตรงนี้ขึ้นอยู่กับคุณ ไม่มีใครมาบังคับได้ มันคืออิสระของคุณ 
     มีหลายๆคนบนโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ทุกคนมองว่าเขาต้องมีความสุข เขาต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ความจริงแล้วไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาจะมีความสุขหรือเปล่า นั่นอาจจะยังไม่ใช่อิสระในชีวิตของเขาก็ได้ ถ้าเราตั้งเป้าความสำเร็จของเราไว้แล้ว เราเห็นภาพมันอยู่ในหัวแล้ว เมื่อเราไปถึง เราพอใจ เราก็จะเจอกับอิสระในชีวิตของเราครับ ลองตั้งเป้าหมายดูนะครับ เพราะชีวิตมันช่างสนุกเหลือเกินถ้าเราได้คิดและทำทุกๆอย่าง อย่าง"อิสระ"
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะครับ หวังว่าทุกคนคงได้มุมมองอะไรบ้าง แต่ที่ผมอยากให้ทุกคนได้รับคือ กำลังใจและมุมมองว่าตัวคุณเองก็ไม่ได้ด้อยกว่าใคร และเมื่อถึงวันที่เรายิ่งใหญ่กว่าใครเราก็ไม่ควรคิดจะเบียดเบียนคนอื่นครับ หาอิสระในชีวิตแล้วใช้ซะ!! 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

[รีวิว] เรื่องกินสนุกๆจนเป็น ริดสีดวง และวิธีรักษาแบบไม่ผ่าตัด

(มีคลิป)สอนเล่น Vindictus เกมใหม่สุด Sexy ของ Garena

มารู้จักกับเกม Clash of Clans เกมที่นางเอกตัวแม่ อย่างพี่อั้ม พัชราภา ยังเล่น(สวยและเล่นเกมแบบนี้ จ๊าบไปเลย!)