[มีสาระ]เรื่องสนุกๆของ Sound Wave หรือ คลื่นเสียง
Sound Wave หรือ คลื่นเสียง ถ้าคุณอ่านจบแล้วจะร้อง อ๋อ มันเป็นอย่างงี้นี่เอง!!!
โปรดอ่าน! เรื่องนี้เกิดจากความเห็นส่วนตัวล้วนๆ อาจจะมีคนชอบไม่ชอบนะครับ ใช้สติในการอ่านนะครับ จุ๊บๆ [เพื่อความสนุกและไหลลื่นในการอ่านผมจำเป็นต้องเรียบเรียงประโยคพูดใหม่ อาจมีบางคำที่ไม่ใช่คำที่รับฟังมาจริงๆ ได้โปรดเข้าใจด้วยนะครับ]
ความเดิมตอนที่แล้ว: (เรื่อง Sweet Spot อ่านแบบเต็มๆคลิกที่นี่)
ณ ห้องอัดที่เพื่อนผมดูแลอยู่
พี่ SE(Sound Engineer)คนดังกรีดร้องด้วยความตกใจ หลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่ตัวเองเพิ่งอัดมา "ตระเถรรรร!! ทำไมเสียงเบส(ความถี่ต่ำ)มันไม่ออก" ซึ่งขณะนั้นพี่เขายืนอยู่บริเวณประตูทางเข้าของห้องอัด
เพื่อนของผมเลยตอบว่า "พี่ครับ พี่ยืนตรงนั้นมันไม่ใช่ Sweet Spot มันก็อาจจะมีบางความถี่หายไปหรืออาจจะไม่ได้ยินเสียงบางอย่าง พี่ต้องมานั่งฟังตรง Sweet Spot สิครับ"
พี่ SE คนดัง(กล่าว)เลยบอกว่า "ไอ้น้อง! ห้องอัดที่พี่ไปเมื่อวันก่อนน่ะนะ ฟังตรงไหนก็เสียงเท่ากันหมดนั่นแหละ!! ห้องอัดที่นี่ต้องแก้ Acoustic ห้องใหม่แล้วล่ะ"
แล้วเพื่อนผมก็มาคุยกับผมถึงเรื่องที่เกิดขึ้น(ใครอยากอ่านเต็มๆรบกวนดูจากลิงค์ Sweet Spot นะครับ)
แล้วเพื่อนผมก็มาคุยกับผมถึงเรื่องที่เกิดขึ้น(ใครอยากอ่านเต็มๆรบกวนดูจากลิงค์ Sweet Spot นะครับ)
วันนี้เราจะมาสนุกกับคลื่น(Wave) กันนะครับ
ก่อนอื่นเลยผมมีคำถาม ให้ทุกคนตอบในใจนะครับ(หรือจะตะโกนออกมาก็ได้ แต่ผมไม่ได้ยินหรอก อิอิ) ถ้าพูดถึงคลื่น คุณนึกถึงอะไร เอาล่ะ! จับเวลา 5 วินาที 1 2 3 4 5 หมดเวลาครับ
ถ้าถามผม ผมนึกถึงทะเลครับ (เสียงคลื่นซัดสาด มองเห็นไกลสุดขอบฟ้าาาา...) เพราะมันเป็นคลื่นที่เราเห็นชัดเจนที่สุด แล้วภาพแห่งความทรงจำต่างๆที่ถูกเก็บไว้ในสมองซีกขวาของเราก็จะถูกดึงมาใช้ทันทีที่พูดถึงคลื่น บางคนอาจไม่ใช่คลื่นทะเล อาจจะเป็นคลื่นเสียง คลื่นวิทยุ คลื่นโทรศัพท์ ฯลฯ แต่ทุกคลื่นที่พูดมาหรือที่คุณๆจะนึกออก ถ้าเราจับมาเขียนเป็นภาพให้เข้าใจง่ายๆ จะได้เป็นภาพเดียวกันทั้งหมด ดังภาพข้างล่าง(ผมทำเองอาจไม่ดีเท่าที่ควร)
จากภาพจะเห็นได้ว่ามีแกนแนวตั้งและแนวนอน แกนแนวตั้งคือ Amplitude หรือ ความสูงของคลื่น(คือความดังของเสียงถ้าเป็นเรื่องคลื่นเสียง) แกนแนวนอนคือ Time หรือ เวลาทีคลื่นเคลื่อนที่ไป ผมจะขออธิบายเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการ์ที่ผมเล่ามาข้างบนนะครับ (จริงๆแล้วเรื่องคลื่นมีข้อมูลอีกเยอะนะครับ ใครอยากรู้ทั้งหมด แนะนำให้กดดูได้ที่ ลิงค์ นี้ครับ)
องค์ประกอบของคลื่น(คร่าวๆ)
- ความถี่
- ความเร็ว
- ความยาว
คุณสมบัติของคลื่น(ที่ผมคิดว่าต้องรู้ ดูข้อมูล เพิ่มเติมจากลิ้งนี้)
- การสะท้อน
- การหักเห
- การเลี้ยวเบน
เอาล่ะครับมาเริ่มคุยเรื่องคลื่นเสียงกันสักหน่อย!
คลื่น คลื่น คลื่น แล้วก็คลื่น ถึงแม้หน้าตาและรูปร่างเพื่อการคำนวณและการอธิบายจะใช้รูปเดียวกันทั้งหมด แต่ในความจริงแล้ว คลื่นทุกคลื่นก็มีความแตกต่างกันทางด้านคุณสมบัติทางกายภาพ เช่น คลื่นเสียงทำให้เราได้ยินเสียงนู่นนี่นั่น ฯลฯ คลื่นวิทยุใช้ในการส่งสัญญาณหรือข้อมูลต่างๆ คลื่นทะเลเรามองเห็น มาดูคลื่นเสียงกัน
ความถี่เสียง
คนเรานั้นสามารถได้ยินเสียงตั้งแต่ 20 Hz(เฮิร์ตซ์ คือ หน่วยของความถี่เสียงมีสูตรคำนวนตามนี้ครับ ลิงค์) - 20,000 Hz ถามว่าเราจำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ทำไม ผมว่าจำเป็นนะเพราะเมื่อความถี่เสียงเปลี่ยน ลักษณะการเคลื่อนที่ของเสียงก็เปลี่ยนครับ เช่น ความถี่สูง เสียงจะเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง(ไม่ใช่วิ่งเป็นเส้นตรงเลยนะแค่เปรียบเทียบครับ) ความถี่ต่ำ เสียงจะเคลื่อนที่แบบกระจายออกจากรอบๆจุดกำเนิดเสียงลักษณะเหมือนโยนยินลงไปในน้ำนิ่งๆแล้วมีคลื่นเกิดรอบๆจุดกำเนิดครับ ลองจินตนาการดูครับถ้าคุณไปดูหนังเมื่อคุณเปิดประตูเข้าไปในโรงหนังแล้วหาที่นั่งบนเก้าที่เขามีไว้ให้ คุณจะได้ยินเสียงในหนังค่อนข้างครบ ทั้งเสียงพูด เสียงเอฟเฟ็กซ์ ได้ยินทั้งเสียงสูงต่ำ แต่ถ้าคุณเดินออกมานอกโรงหนัง(ขณะที่หนังยังฉายอยู่)คุณได้ได้ยินแค่เสียง อึ้ม อึ้ม ตึ้ม ตู้ม พวกเสียงต่ำทั้งหลาย แรงสะเทือน ฯลฯ เรื่องพวกนี้สอดคล้องกับเรื่องความยาวคลื่นครับ มาดูกันต่อเลย
ความยาวคลื่นเสียง
ความยาาาาาาาาาาาาวววววววคลื่นนนนนนนน(ยาวไปป่ะ? เหอๆ) เราสามารถหาค่าได้จาก สูตรใน ลิงค์นี้ ครับ ความถี่สูงจะมีความยาวคลื่นสั้น ความถี่ต่ำจะมีความยาวคลื่นยาว ลองคิดถึงสิ่งกีดขวางซักอย่างนึงนะครับ ถ้าคิดไม่ออก ผมขอยกตัวอย่าง ไม้กระดาน ดูจากภาพได้เลยครับ
จะเห็นได้ว่าคลื่นความถี่ต่ำ(สีแดง)จะเคลื่อนที่ข้ามสิ่งกีดขวางนี้ไปได้เลย ลักษณะการเคลื่อนที่ของคลื่นเสียงจะเป็นประมาณนี้แต่ไม่ใช่แบบนี้เป๊ะๆนะครับ แล้วในชีวิตจริงนั้น เสียงพูด เสียงคน เสียงดนตรี เสียงในหนัง จะมีความถี่มากมาย ตั้งแต่ 20-20,000 HZ ประกอบอยู่ ไม่ใช่แค่ 2 คลื่นเสียงแบบนี้แล้วแต่ละเสียงก็ดังเบาไม่เท่ากันด้วยครับ(หวังว่าจะเข้าใจนะครับ ถ้ามีคำถามก็ทิ้งคำถามไว้ในคอมเมนท์หรือช่องทางอื่นๆได้ครับ) ***สิ่งที่ควรรู้: เนื่องจากความถี่ต่ำมีความยาวคลื่นยาว ทำให้เมื่อเราไปยืนใกล้ๆลำโพง Sub Woofer(ลำโพงความถี่ต่ำ) อาจจะไม่รู้สึกว่ามีเสียงต่ำออกมาหรืออาจจะไม่รู้สึกถึงแรงสะเทือนที่มากระทบตัวคุณ แต่ถ้าคุณลองขยับตำแหน่งฟังออกห่างจากลำโพงสักระยะหนึ่งคุณจะรู้สึกถึงมัน แล้วถ้าลองขยับออกไปอีกมันจะหายไปตามลักษณะของคลื่นในภาพข้างบน เหตุผลที่ไม่ได้ยินเพราะคุณอาจจะยืนในตำแหน่งที่คลื่นเสียงเคลื่อนที่ข้ามคุณไปแล้วก็ได้ ไม่เชื่อใช่ไหมครับ? ผมไม่บังคับให้เชื่อนะ แต่ผมอยากให้ลองด้วยตัวเอง แล้วคุณจะรู้เลยว่ามันเป็นยังไง จริงหรือไม่จริง
ความเร็วคลื่นเสียง
ทุกคนรู้หรือไม่ครับว่า ความเร็วของคลื่นเสียงขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ? ถ้าคุณยังไม่รู้ ไม่เป็นไรครับ มารู้กันตอนนี้เลย ความเร็วของเสียงนั้นมีสูตรคำนวณอยู่ โดยทุกคนสามารถลองคำนวณเล่นๆได้จากในลิงค์นี้ครับ กดที่นี่ (อยากให้ทุกคนลองกดดูจริงๆนะ มันง่ายมากๆครับ) สรุปจากสูตรจะเห็นได้ว่าเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นเสียงจะเดินทางได้เร็วขึ้น ถ้าอุณหภูมิต่ำก็เดินทางได้ช้าลง
มาถึงประเด็นที่พี่ SE คนดัง(กล่าว)ได้กรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ!!
หลังจากกรีดร้อง เขาบอกว่า "ห้องอัดที่ผมใช้เมื่อวันก่อน ยืนตรงไหนก็ได้ยินเสียงเท่ากันหมด" เพื่อนๆที่อ่านมาจนถึงตอนนี้คงพอนึกออกใช่ไหมครับว่า เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะได้ยินเสียงเท่ากันทั้งห้อง ผมเองก็คิดเช่นนั้นว่า "พี่แม่งขี้โม้!!! 555+" โดยเฉพาะความถี่ต่ำ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ มีเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้พี่เขาได้ยินเสียงทั้งห้องเท่ากันหมด เหตุผลนั้นคือพี่เขาใช้ความรู้สึกอยากได้ยิน จากการพิสูจน์ทางจิตวิทยาถ้าคนเราอยากได้ยินอะไรสมองจะสั่งการให้เราได้ยิน โดยสมองอาจจะสร้างเสียงขึ้นมาในหัวของพี่คนนั้น เขาอาจจะไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าอยาก แต่ในจิตใต้สำนึกลึกๆแล้วเขาอยาก สมองก็จะทำตามที่จิตใต้สำนึกเขาอยาก เพื่อตอบสนองความต้องการของพี่เขา อาการนี้เขาเรียกว่า "จินตนาการเอาเอง"
เพราะเรื่องของคลื่นเสียงนั้นเราพิสูจน์ได้ด้วยสูตรต่างๆ มันไม่ใช่เรื่องลี้ลับอันใด หรือเป็นเรื่องที่ผมแต่งขึ้นมา ถ้าพี่เขาหาข้อมูลมาหรือศึกษาเรื่องฟิสิกซ์เพิ่มเติม ก็จะทำให้เขารู้ว่า เขาไม่ควรบอกว่า ได้ยินเสียงเท่ากันทั้งห้องเพราะมันเป็นไปไม่ได้เลย แค่พี่เขาไปยืนหลังลำโพงก็ได้ยินเสียงไม่เหมือนกับยืนหน้าลำโพงแล้ว เวลาที่เราทำงานนั้น ก็ไม่ควรอวดรู้อวดเก่งโดยเฉพาะกับคนที่เขาเป็นคนดูแลที่ๆแห่งนั้นอยู่ แทนที่เราจะทำงานด้วยกันแล้วแบ่งปันความรู้กัน ใครรู้อันไหนก็เล่าให้กันฟัง ใครไม่รู้อันไหนก็ถามกันตอบกัน การทำงานแบบนี้จะช่วยให้ทุกคนทำงานด้วยกันอย่างราบลื่นขึ้นครับ(ผมเชื่อแบบนั้น) เพราะชีวิตมันช่างสนุกเหลือเกินที่ได้ทำงานกับคนที่ใจกว้าง ไม่หวงความรู้ ไม่อวดเก่ง รู้จักยอมรับว่าตัวเองรู้อะไร ไม่รู้อะไร คนที่คิดว่ารู้ทุกอย่าง ก็จะรู้แค่ที่เขารู้และเขาจะไม่มีวันรู้เลยว่าเขาไม่รู้อะไร
ขอบคุณครับทุกคน
ปล.แล้วติดตามกันต่อกับเรื่องของเสียงจากผม ตูมตาม นะครับ
ขอบคุณครับผม
ตอบลบคร๊าบ ถ้ามีข้อมูลตรงไหนผิดพลาดบอกได้นะครับ หรือแนะนำก็ได้ครับ
ลบ