[มีสาระ]เรื่องสนุกๆของ Sweet Spot for Sound จุดที่ดีที่สุดของการฟังเสียงต่างๆ หนัง, เพลง, คอนเสิร์ต

มารู้จักกับ Sweet Spot(จุดหวาน) กันเถอะ!!! 

โปรดอ่าน! เรื่องนี้เกิดจากความเห็นส่วนตัวล้วนๆ อาจจะมีคนชอบไม่ชอบนะครับ ใช้สติในการอ่านนะครับ จุ๊บๆ  [เพื่อความสนุกและไหลลื่นในการอ่านผมจำเป็นต้องเรียบเรียงประโยคพูดใหม่ อาจมีบางคำที่ไม่ใช่คำที่รับฟังมาจริงๆ ได้โปรดเข้าใจด้วยนะครับ]

     สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมจะมาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องของ Sweet Spot สำหรับการฟังเสียงต่างๆนะครับ คือเมื่อวันก่อนเพื่อนผมที่เรียน Sound Engineer(วิศวกรเสียง ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า SE) ด้วยกัน มาเล่าให้ผมฟังว่า มีพี่คนนึงซึ่งเป็น SE ของวงดนตรีวงหนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยนาม) มาใช้บริการที่ห้องอัดเสียงซึ่งเพื่อนผมเป็นคนดูแล(ดูแลการใช้งานเครื่องเสียงนะ ไม่ใช่ปัดกวาดเช็ดถู 555+) แล้วหลังจากที่พี่ SE คนดังกล่าวอัดเสียงดนตรีทุกอย่างเสร็จแล้ว พี่เขาก็เดินเข้ามาฟังสิ่งที่เขาเพิ่งจะอัดเข้าไปเมื่อสักครู่แล้วกล่าวว่า "ตระเถรรรร!! ทำไมเสียงเบส(ความถี่ต่ำ)มันไม่ออก" ซึ่งขณะนั้นพี่เขายืนอยู่บริเวณประตูทางเข้าของห้องอัด 

     เพื่อนของผมเลยตอบว่า "พี่ครับ พี่ยืนตรงนั้นมันไม่ใช่ Sweet Spot มันก็อาจจะมีบางความถี่หายไปหรืออาจจะไม่ได้ยินเสียงบางอย่าง พี่ต้องมานั่งฟังตรง Sweet Spot สิครับ" 

     พี่ SE คนดัง(กล่าว)เลยบอกว่า "ไอ้น้อง! ห้องอัดที่พี่ไปเมื่อวันก่อนน่ะนะ ฟังตรงไหนก็เสียงเท่ากันหมดนั่นแหละ!! ห้องอัดที่นี่ต้องแก้ *Acoustic ห้องใหม่แล้วล่ะ"

*สาระ Acoustic(อะ-คู๊ด-สะ-ติก[แล้วแต่คนจะอ่านนะแต่ผมจะอ่านแบบนี้ อิอิ])ของห้อง ในที่นี้หมายถึง การออกแบบต่างๆที่เกี่ยวกับเสียงภายในห้อง เช่น มุมการสะท้อนเสียง ลักษณะการดูดซับเสียง หรือจุดกระจายเสียง ซึ่งในการออกแบบห้องอัดนั้นใครจะสามารถออกแบบ แบบไหนก็ได้ไม่มีวิธีการตายตัว แล้วแต่จุดประสงค์ของแต่ละคน สามารถติดตามได้ในกระทู้ต่อๆไป
     เพื่อนผมตอบกลับว่า "โอเคครับ เดี๋ยวจะหาคนมาแก้ให้นะครับ[ในใจ: เออ ช่างมึงเหอะ!!]"
     แล้วเพื่อนผมก็อยู่ช่วยพี่ SE คนนั้นด้วยความเจ็บปวดใจ จนเขากลับบ้านไปนอนฝันดี(จนดึก)
     จากเหตุการณ์ที่เล่ามาเพื่อนผมจึงเก็บคำถามและความอัดอั้นตันใจที่มีคนมาว่าห้องอัดที่เพื่อนผมดูแลอยู่ว่าต้องแก้ Acoustic ใหม่ แล้วมาถามผมว่า "Hey! พวก วันนี้มีคนมาใช้ห้องแล้วเขาก็..." เพื่อนผมร่ายยาวจนถึงฉากที่พี่ SE คนนั้นจากไป
     ผมเลยตอบจากประสบการณ์(อันน้อยนิด)ที่ได้พบได้เห็นได้เรียนได้ลองทำมาว่า "มันอาจจะเป็นไปได้ที่เราเดินไปฟังตรงมุมต่างๆของห้อง แล้วได้ยินเสียงเบส(ความถี่ต่ำ) เพราะการออกแบบของห้องอัดแต่ละที่ไม่เหมือนกัน แต่การที่เราจะฟังเสียงได้ครบที่สุดจำเป็นจะต้องฟังที่ Sweet Spot ถ้าเอ็งมีโอกาสก็ไปบอกพี่เขาด้วยนะว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะฟังตรงไหนภายในห้องอัดแล้วได้ยินเสียงเท่ากันทั้งหมด ถ้าใครพูดแบบนี้แสดงว่าเขายังไม่รู้จักเรื่องเสียงดี เพราะคลื่น(กดอ่านที่ลิงค์ได้)ตามกฏของฟิสิกส์นั้นมีจุดบัพและปฏิบัพฯลฯ ทำให้ไม่สามารถได้ยินเท่ากันทุกจุด" [เรื่องคลื่นเพื่อนๆที่สนใจสามารถรออ่านได้ในกระทู้ต่อๆไปนะครับ]

เอาล่ะร่ายยาวมาพอสมควรมาถึงเรื่องของ Sweet Spot ละครับ(แอบเหนื่อย แฮ่กๆ (- -") )

     Sweet Spot(ของการฟังเสียงดนตรี ภาพยนตร์ คอนเสิร์ต) หมายถึง จุดที่ดีที่สุดในการฟังเสียงในที่ต่างๆ เช่น ถ้าผมจะดูหนังซักเรื่องผมมักจะเลือกนั่งบริเวณกลางๆของโรงหนังเพราะเวลาที่คนทำหนัง ไม่ว่าจะตัดต่อเสียง ภาพ หรือแม้แต่การทำ 3D(สามมิติ) ทุกคนล้วนนั่งตรงกลางจอหรือตรงจุดที่ดีที่สุดตอนทำเบื้องหลัง(ซึ่งคงไม่ใช่ตรงประตูห้องอัด อิอิ) ยิ่งสมัยนี้มีโรงหนังที่มีระบบเสียงแบบ Atmos(เพิ่มเติมในลิงค์ได้ครับ) ซึ่งให้เสียงแบบรอบทิศทาง(รอบตัวและบนหัวด้วย) มันทำให้ผมฟินสุดๆที่ได้ฟังเสียงหนังของ Tony Stark(Iron Man) สุดเลิฟแบบทั่วทิศทาง หรือแม้แต่ในห้องอัดซึ่งทุกคนที่เป็นคนออกแบบห้องอัดนั้นล้วนแต่ออกแบบจุด Sweet Spot เอาไว้ให้คนที่มาใช้ทั้งนั้น(ไม่ต้องคิดเอง เออเองว่า ตรงนั้นตรงนี้ดีที่สุด) เอาล่ะผมมีรูปซึ่งผมทำเอง มาให้ดูครับ

     

     จากรูปจะเห็นได้ว่า มีตัวเลขบอกระยะห่างอยู่ ซึ่งคือเลข 3 เมตร เท่ากันทั้ง 3 เส้น แล้วก็มีเก้าอี้วางอยู่ ซึ่งผมกำลังจะบอกว่า นั่นแหละครับ จุด Sweet Spot ของบริเวณที่ผมออกแบบ หลายคนอาจจะสงสัยว่า "เฮ้ย ตูมตาม แล้วมันต้องเป็น 3 เมตรด้วยหรอวะครับ?" 

     ผมตอบได้เลยว่า "ไม่จำเป็นต้อง 3 เมตรเว่ยครับ แต่ที่จำเป็นคือระยะทั้งสามมุมต้องเท่ากันเป็นเหมือนสามเหลี่ยมด้านเท่า เช่น ห้องคุณขนาดไม่ใหญ่มาก มีพื้นที่สำหรับวางลำโพงห่างกันได้แค่ 1.5 เมตร คุณก็วางลำโพงตรงจุดที่ห่างกัน 1.5 เมตรนั้น แล้วหันหน้าลำโพงเข้ามาหาจุดกึ่งกลางด้วยมุมประมาณ 60 องศา จากนั้นก็วางเก้าอี้บนมุมของสามเหลี่ยมที่เหลือ ซึ่งระยะห่างก็ควรเป็น 1.5 เมตร เช่นกันครับ"

     ถ้าเป็นการดูคอนเสิร์ต(ที่เป็นคอนเสิร์ตจริงๆไม่ใช่งาน Event)แล้วอยากได้ยินเสียงที่ดีที่สุด ผมแนะนำให้ฟังบริเวณใกล้ๆกับที่ Front of House(ซุ้มเครื่องเสียง ที่มักจะมีพวกชายฉกรรจ์หลายๆคนยืนอยู่ในซุ้ม หลับบ้างเล่นเกมส์บ้างแล้วแต่โอกาส 555+) เขามักจะตั้งในบริเวณห่างจากเวทีในระดับที่พอเหมาะซึ่งทาง SE ที่เป็นคนคุมเสียงในงานคอนเสิร์ตจะเป็นคนกำหนดว่าควรอยู่ตรงไหนเพื่อให้ SE ได้ฟังเสียงในจุดที่ดีที่สุด ฉนั้นถ้าคุณๆอยากฟังเสียงดนตรีจริงๆ ก็ลองหาซื้อตั๋วหรือหาที่ยืนฟังนั่งฟังบริเวณนั้นดูนะครับ ถ้าไม่ลองแล้วจะเสียใจ อิอิ

     เป็นยังไงบ้างครับกับ Sweet Spot คุณเองก็สามารถรับฟังเพลงในจุดที่ดีที่สุดจากลำโพงที่บ้านง่ายๆด้วยวิธีการที่ผมบอกไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่มีจุดไหนตายตัวนะครับ คุณอาจจะวางลำโพงห่างกัน 2 เมตร แต่ระยะห้องทำให้คุณต้องนั่งที่ 1.5 เมตร ซึ่งก็ไม่มีปัญหาครับ มันขึ้นกับสถานที่และความสะดวกด้วย(บางทีผมนั่งติดจอเลย พอดีชอบดูใกล้ๆจอ 555+) แต่ถ้าเป็นการดูหนังนั้นผมแนะนำให้ลองดูหนังเรื่องเดียวกัน โรงเดียวกัน(แต่ต้องคนละรอบนะ จะได้ไม่ต้องวิ่งไปมา อิอิ) รอบนึงนั่งข้างบน อีกรอบนั่งตรงกลาง แล้วรอบสุดท้ายนั่งติดจอ(แต่คุณจำเป็นต้องนั่งใกล้ๆจุดศูนย์กลางของโรงหนังนะครับ) แล้วลองเปรียบเทียบดูว่าคุณภาพเสียงตรงไหนดีที่สุด(ซึ่งอาจจะไม่ใช่บริเวณกลางๆโรงหนังแบบผม) แต่นั่นก็คือ Sweet Spot ของคุณครับ เพราะชีวิตมันช่างสนุกเหลือเกิน ถ้าคุณได้เลือกที่นั่งดูหนังด้วยตัวเองไม่ใช่โดนใครเลือกก่อนจนหมด แล้วโดนบังคับเลือกให้ไปนั่งหน้าโรง(ผมเคยนั่งดูอยู่หน้าสุดแถมยังริมสุดทางซ้ายตอนดู Iron Man 2 คอแทบเคล็ด เฮ้อ นี่ถ้าไม่ใช่ Iron Man ผมกลับบ้านไปละนะเนี่ย 555+)

     สุดท้ายขอขอบคุณที่นั่งอ่านจนจบครับ แล้วพบกันใหม่กับเรื่องมีสาระบ้างไร้สาระบ้างจากผมนะครับ 

ปล.เรื่องต่อไปของเรื่องมีสาระเป็นเรื่องคลื่น(Wave) นะครับ ถ้าใครสนใจก็สามารถติดตามได้ครับ 

ปล2. ผิดถูก ชอบไม่ชอบ แนะนำ ติชม ว่ากล่าว ตักเตือน ได้นะครับ ผมยินดีรับฟัง ขอบคุณอีกทีครับ

สนใจเรียนพิเศษที่บ้านกับติวเตอร์จากสถาบันชื่อดังได้ที่

www.hqtutorhome.com